ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกรอบที่ 4 มาดูความคืบหน้าก่อนแข่งกัน
การแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2026 กำลังเดินทางมาถึงช่วงโค้งสำคัญ โดยรอบคัดเลือกรอบที่ 4 ของโซนเอเชีย (AFC) เตรียมเปิดฉากในเดือนตุลาคมนี้ พร้อมกับ 6 ทีมสุดแกร่งที่ฝ่าด่านรอบก่อนหน้ามาได้สำเร็จ บทความนี้ทีมงาน W88HUB จะพาคุณไปติดตามความคืบหน้า สรุปข้อมูลทีมที่ผ่านเข้ารอบ ตารางการแข่งขัน และเงื่อนไขการผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของศึกเวิลด์คัพครั้งนี้ ใครมีลุ้น ใครน่าจับตามอง มาหาคำตอบไปพร้อมกันก่อนเกมจะเริ่ม
ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก
ฟุตบอลโลก 2026 นับเป็นก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ของวงการลูกหนังโลก เพราะเป็นครั้งแรกที่ฟีฟ่า (FIFA) ขยายจำนวนทีมจาก 32 ทีม เป็น 48 ทีม เพื่อเปิดโอกาสให้ประเทศจากทุกทวีปมีส่วนร่วมมากขึ้น พร้อมทั้งเปิดบ้านต้อนรับโดย 3 ประเทศเจ้าภาพร่วม ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, และ เม็กซิโก นับเป็นครั้งแรกที่มีเจ้าภาพถึง 3 ประเทศในการจัดฟุตบอลโลก
รอบคัดเลือก รูปแบบใหม่ที่ทุกสายตาจับจ้อง
การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้โควต้าการเข้ารอบสุดท้ายในแต่ละทวีป ต้องมีการปรับใหม่ทั้งหมด ซึ่งนำไปสู่ระบบรอบคัดเลือกที่เข้มข้น ดุเดือด และยาวนานมากยิ่งขึ้น โดยในการแข่งขัน ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2026 นี้
โดยจะแบ่งทีมชาติทั่วโลกออกเป็น 6 สมาพันธ์ (Confederations) หรือ 6 โซน ด้วยกันำด้แก่ AFC (เอเชีย), CAF (แอฟริกา), CONCACAF (อเมริกาเหนือ/กลาง), CONMEBOL (อเมริกาใต้), OFC (โอเชียเนีย) และ UEFA (ยุโรป) โดยบทความนี้เราจะมานำเสนอรายละเอียดในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกในโซน AFC (เอเชีย) บ้านเราให้ชมกัน
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย (AFC)
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย (AFC) ถือเป็นหนึ่งในรอบคัดเลือกที่ซับซ้อนและเข้มข้นที่สุด เนื่องจากมีการเพิ่มจำนวนโควต้าเข้ารอบสุดท้าย และต้องคัดเลือกจากชาติสมาชิก AFC ที่มีมากถึง 46 ทีมชาติ ภายใต้ระบบการแข่งขันใหม่ที่แบ่งออกเป็น 5 รอบหลัก เพื่อเฟ้นหาทีมที่ดีที่สุด 8 ทีม และต้องแข่งขันแบบเพลย์ออฟข้ามทวีปอีก 1 ทีม เพื่อเป็นตัวแทนทวีปเอเชีย
- รอบที่ 1 (First Round)
- รอบที่ 2 (Second Round)
- รอบที่ 3 (Third Round)
- รอบที่ 4 (Fourth Round)
- รอบที่ 5 (Fifth Round)

รอบที่ 1 (First Round)
รอบแรก (First Round) จะเป็นการคัดเลือกทีมชาติที่มีอันดับต่ำที่สุด 22 ทีม โดยจะทำการแข่งขันกันแบบจับฉลากเป็น 11 แมตช์ และจะเล่นแบบเหย้าและเยือนในสองเลก “เพลย์ออฟ” ผู้ชนะผ่านเข้าสู่รอบ 2 ขณะที่ผู้แพ้จะได้สิทธิ์เข้ารอบ “เพลย์ออฟ” ของเอเชียนคัพ AFC 2027 นั่นเอง โดยมีรายละเอียดในการแข้งขันดังต่อไปนี้
ทีมแรก | ผล | ทีมที่ 2 | นัดแรก | นัดที่สอง |
อัฟกานิสถาน | 2-0 | มองโกเลีย | 1-0 | 1-0 |
มัลดีฟส์ | 2-3 | บังกลาเทศ | 1-1 | 1-2 |
สิงคโปร์ | 3-1 | กวม | 2-1 | 1-2 |
เยเมน | 4-1 | ศรีลังกา | 3-0 | 1-1 |
พม่า | 5-1 | มาเก๊า | 5-1 | 0-0 |
กัมพูชา | 0-1 | ปากีสถาน | 0-0 | 0-1 |
จีนไทเป | 7-0 | ติมอร์เลสเต | 4-0 | 3-0 |
อินโดนีเซีย | 12-0 | บรูไน | 6-0 | 6-0 |
ฮ่องกง | 4-2 | ภูฏาน | 4-0 | 0-2 |
เนปาล | 2-1 | ลาว | 1-1 | 1-0 |
รอบที่ 2 (Second Round)
11 ทีมที่เป็นผู้ชนะจากรอบที่ 1 จะเข้าร่วมคัดเลือกกับทีมอื่นๆต่ออีก 25 ทีม พวกเขาจะแบ่งออกเป็น 9 กลุ่ม (A ถึง I) ด้วยระบบกลุ่มละ 4 ทีม ในแต่ละกลุ่ม จะแข่งกันกับอีก 3 ทีมทั้งในบ้านและนอกบ้าน รวมเป็น 6 นัด ผู้ชนะเลิศและรองชนะเลิศจากแต่ละกลุ่มจะผ่านเข้ารอบ 3 ของฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก (และได้เข้าร่วมการแข่งขันเอเชียนคัพ 2027) ในขณะที่ทีมอันดับ 3 และ 4 จะได้ผ่านเข้ารอบ 3 ของการแข่งขันเอเชียนคัพ 2027 โดยมีผลการแข่งขันดังต่อไปนี้
กลุ่ม A
อันดับ | ทีม | แข่ง | ประตูได้เสีย | คะแนน |
1 | กาตาร์ | 6 | +15 | 16 |
2 | คูเวต | 6 | 0 | 7 |
3 | อินเดย | 6 | -4 | 5 |
4 | อัฟกานิสถาน | 6 | -11 | 5 |
กลุ่ม B
อันดับ | ทีม | แข่ง | ประตูได้เสีย | คะแนน |
1 | ญี่ปุ่น | 6 | +24 | 18 |
2 | เกาหลีเหนือ | 6 | +4 | 9 |
3 | ซีเรีย | 6 | -3 | 7 |
4 | พม่า | 6 | -25 | 1 |
กลุ่ม C
อันดับ | ทีม | แข่ง | ประตูได้เสีย | คะแนน |
1 | เกาหลีใต้ | 6 | +19 | 16 |
2 | จีน | 6 | 0 | 8 |
3 | ไทย | 6 | 0 | 8 |
4 | สิงคโปร์ | 6 | -19 | 1 |
กลุ่ม D
อันดับ | ทีม | แข่ง | ประตูได้เสีย | คะแนน |
1 | โอมาน | 6 | +9 | 13 |
2 | คีร์กีซสถาน | 6 | +6 | 11 |
3 | มาเลเซีย | 6 | 0 | 10 |
4 | จีนไทเป | 6 | -15 | 0 |
กลุ่ม E
อันดับ | ทีม | แข่ง | ประตูได้เสีย | คะแนน |
1 | อิหร่าน | 6 | +12 | 14 |
2 | อุชเบกิสถาน | 6 | +9 | 14 |
3 | เติร์กเมนิสถาน | 6 | -10 | 2 |
4 | ฮ่องกง | 6 | -11 | 2 |
กลุ่ม F
อันดับ | ทีม | แข่ง | ประตูได้เสีย | คะแนน |
1 | อิรัก | 6 | +15 | 18 |
2 | อินโดนีเซีย | 6 | 0 | 10 |
3 | เวียดนาม | 6 | -4 | 6 |
4 | ฟิลิปปินส์ | 6 | -11 | 1 |
กลุ่ม G
อันดับ | ทีม | แข่ง | ประตูได้เสีย | คะแนน |
1 | จอร์แดน | 6 | +12 | 13 |
2 | ซาอุดีอาระเบีย | 6 | +9 | 13 |
3 | ทาจิกิสถาน | 6 | +4 | 8 |
4 | ปากีสถาน | 6 | -25 | 0 |
กลุ่ม H
อันดับ | ทีม | แข่ง | ประตูได้เสีย | คะแนน |
1 | อาหรับเอมิเรตส์ | 6 | +14 | 16 |
2 | บาห์เรน | 6 | +8 | 11 |
3 | เยเมน | 6 | -4 | 5 |
4 | เนปาล | 6 | -18 | 1 |
กลุ่ม I
อันดับ | ทีม | แข่ง | ประตูได้เสีย | คะแนน |
1 | ออสเตรเลีย | 6 | +22 | 18 |
2 | ปาเลสไตน์ | 6 | 0 | 8 |
3 | เลบานอน | 6 | -3 | 6 |
4 | บังกลาเทศ | 6 | -19 | 1 |

รอบที่ 3 (Third Round)
จาก 18 ทีมที่ผ่านเข้ามาในรอบสอง จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 6 ทีม โดยทีมที่ได้อันดับ 1 และ 2 จะได้สิทธิ์ไปเล่นฟุตบอลโลก 2026 ทันที ส่วนทีมที่อยู่อันดับที่ 3 และ 4 ของทุกกลุ่มต้องไปเล่นรอบสี่เพื่อแย่งตั๋วที่เหลือ ซึ่งมีผลการแข่งขันดังต่อไปนี้
กลุ่ม A
อันดับ | ทีม | แข่ง | ประตูได้เสีย | คะแนน |
1 | อิหร่าน | 9 | +8 | 20 |
2 | อุซเบกิสถาน | 9 | +4 | 18 |
3 | อาหรับเอมิเรตส์ | 9 | +7 | 14 |
4 | กาตาร์ | 9 | -4 | 13 |
5 | คีร์กีซสถาน | 9 | -6 | 7 |
6 | เกาหลีเหนือ | 9 | -9 | 3 |
กลุ่ม B
อันดับ | ทีม | แข่ง | ประตูได้เสีย | คะแนน |
1 | เกาหลีใต้ | 9 | +9 | 19 |
2 | จอร์แดน | 9 | +9 | 16 |
3 | อิรัก | 9 | -1 | 12 |
4 | โอมาน | 9 | -5 | 10 |
5 | ปาเลสไตน์ | 9 | -3 | 9 |
6 | คูเวต | 9 | -9 | 5 |
กลุ่ม C
อันดับ | ทีม | แข่ง | ประตูได้เสีย | คะแนน |
1 | ญี่ปุ่น | 9 | +21 | 20 |
2 | ออสเตรเลีย | 9 | +8 | 16 |
3 | ซาอุดีอาระเบีย | 9 | 0 | 13 |
4 | อินโดนีเซีย | 9 | -5 | 12 |
5 | บาร์เรน | 9 | -10 | 6 |
6 | จีน | 9 | -14 | 6 |

รอบที่ 4 (Fourth Round)
ระดับ ที่ 3 และ 4 ของรอบของรอบที่ 3 จะมีอยู่ 6 ทีมด้วยกัน โดยจะแบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 3 ทีม ทีมที่ได้อันดับที่ 1 ของ 2 กลุ่มนี้ จะได้สิทธิ์ไปเล่นฟุตบอลโลก 2026 ในฐานะทีมที่ 7 และ 8 ในโควต้าของโซนเอเชียทันที
ซึ่งจะมีขึ้นในช่วง 8–14 ตุลาคม 2025 โดยแบ่ง 6 ทีม ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย, กาตาร์, อิรัก, โอมาน, อินโดนีเซีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 3 ทีม
แชมป์กลุ่มจากทั้งสองกลุ่มจะได้สิทธิ์ตรงเข้าสู่ฟุตบอลโลก ส่วนทีมอันดับสองในแต่ละกลุ่มจะต้องไปแข่งขันกันในรอบเพลย์ออฟภายในเอเชีย และจากนั้นแข่งอินเตอร์คอนติเนนตัล เพลย์ออฟในมีนาคม 2026
รอบที่ 5 (Fifth Round)
อันดับที่ 3 ของแต่ละกลุ่มในรอบที่สี่จะมีโอกาสได้คัดเลือกในรอบเพลย์ออฟ โดยจะเป็นการคัดเลือกจากอันดับสามในรอบที่สี่จากทวีปอื่นๆ เพื่อหาทีมที่ผ่านเข้ารอบอีก 1 ทีมนั่นเอง โดยในขณะนี้ยังไม่มีการแข่งขัน เมื่อทำการแข่งขันเราจะมาอัพเดตข้อมูลการแข่งขันให้อีกครั้ง
สรุป
ฟุตบอลโลก 2026 จะมีทีมเข้าร่วมรอบสุดท้ายเพิ่มขึ้นเป็น 48 ทีม ทำให้โซนเอเชียได้รับโควต้าเพิ่มขึ้นเป็น 8.5 ที่นั่ง ซึ่งจากเดิมเพียง 4.5 ที่นั่งเท่านั้น การแข่งขันคัดเลือกในโซนเอเชียดำเนินการภายใต้สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (AFC) โดยแบ่งออกเป็น 5 รอบ เพื่อหาทีมที่ผ่านเข้ารอบดังผลสรุปต่อไปนี้
แหล่งที่มา | จำนวนทีม |
อันดับ 1-2 จาก 3 กลุ่ม ในรอบที่ 3 | 6 ทีม ได้แก่ อิหร่าน, อุซเบกิสถาน, เกาหลีใต้, จอร์แดน, ญี่ปุ่น และ ออสเตรเลีย |
อันดับ 1 จาก 2 กลุ่มในรอบที่ 4 | 2 ทีม อยู่ระหว่างการแข่งขัน |
ผู้ชนะจากรอบที่ 5 | 1 ทีม (ต้องไปแข่งเพลย์ออฟ) อยู่ระหว่างรอการแข่งขัน |
การเพิ่มจำนวนทีมในฟุตบอลโลก 2026 ทำให้โซนเอเชียมีโอกาสมากขึ้น แต่ระบบคัดเลือกก็เข้มข้นและยาวนานมากขึ้นเช่นกัน การผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายยังต้องอาศัยความแข็งแกร่ง สม่ำเสมอ และการเตรียมทีมอย่างรอบด้าน